วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เปเล่


เปเล่ “ไข่มุกดำของโลก”เอ็ดสัน อารันเตส โด นาสซิเมนโต้ หรือที่ทั่วโลกรู้จักในนามของ “ไข่มุกดำ”เปเล่ อดีตนักฟุตบอลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “โคตรบอล” ขนานแท้และยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในทุกยุคทุกสมัย ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ด้วยคุณสมบัติของเปเล่ ล้วนเป็นที่ถวิลหาของโค้ชทุกทีมความสามารถเป็นที่ทั้งอยาก และยากจะเลียนแบบของนักเตะในทุกยุคทุกสมัย เล่นบอลได้ดีทั้งสองเท้าเข้าข่ายพรสวรรค์ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกของฟุตบอล ผ่านบอลแม่นราวจับวาง เป็นตัวจบสกอร์ที่เพอร์เฟกต์ เรียกได้ว่าเป็นกองหน้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดของโลกเลยทีเดียวด้านความเร็ว และความแข็งแกร่ง เปเล่ ไม่เคยเป็นสองรองใครแม้ยามครอบครองบอล ชีวิตประสบความสำเร็จจนแทบจะสำลัก 2 ประตูจากที่ตัวเองลั่นไกสังหารนั้นพา “แซมบ้า” บราซิล คว้าแชมป์โลกมาด้วย รวมแล้วเปเล่ ขึ้นรับถ้วยแชมป์ 3 สมัย แต่ เปเล่ รีไทร์ จากวงการตั้งแต่ปี 1977 หลังจากนั้นชีวิตก็มิได้ห่างหายจากวงการฟุตบอล ยังคงเป็นทูตให้กับวงการกีฬารับใช้สร้างประโยชน์ให้สังคมต่อไปชื่อจริงของ เปเล่ ถูกตั้งตามนักประดิษฐ์ของโลก โธมัส เอดิสัน แต่ไม่มีใครคิดจะตั้งชื่อเล่นให้ จนกระทั้งเข้าโรงเรียน เมื่อก่อน เปเล่ ไม่ค่อยจะชอบชื่อเล่นของตัวเองนัก แต่เหมือนว่ายิ่งตัวเองบ่นไม่ชอบมากแค่ใหน เพื่อนๆก็ยิ่งเรียกบ่อยมากเท่านั้น จากนั้นก็เคยชิน และขาดชื่อนี้ไม่ได้ ไม่มีใครคาดคิดว่าวันนึง “เปเล่” จะเป็นชื่อที่คนทั่วโลกรู้จัก พร้อมขนานนามว่านี่คือ “God” ของวงการฟุตบอล เหมือนเป็นชื่อที่พระเจ้าประทานมาให้คู่กันจริงๆเปเล่ เติบโตขึ้นมากับการเล่นฟุตบอลตามท้องถนนดินลูกรังในบ้านเกิด ไม่มีแม้กระทั่งถุงเท้าดังนั้นเรื่องรองเท้า ไม่ต้องฝันถึงกระทั่งลูกบอลที่จะใช้เตะยังมาจากกระดาดเอามาปั้นเป็นก้อนกลม หรือไม่ก็ลูกเกรฟฟรุ๊ต ลูกหนังลูกแรกที่เปเล่ ได้สัมผัสคือของขวัญวันเกิดครบ 6 ขวบจากเพื่อนร่วมทีมของคุณพ่อที่เป็นนักฟุตบอลชื่อ โซซ่าพอวัยได้ 11 ปีเปเล่ ถูกนักเตะระดับตำนานของบราซิล อย่าง วัลเดมาร์ เดอ บริโต้ สังเกตุเห็นแววและชวนกันไปอยู่ทีมสมัครเล่นของ บริเตอร์ ต่อมาปี 1956 ผู้ดูแลได้พาไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่ ซานโตส ซึ่ง เดอ บริเตอร์ การันตี ไว้ตั้งแต่อายุ 15 แล้วว่า เปเล่ จะก้าวขึ้นเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในอนาคตแน่นอนเกมลีกเกมแรก เปเล่ ยิงไป 4 ประตู และเมื่อฤดูกาลใหม่เริ่มขึ้น เปเล่ ได้เป็นนักเตะตัวจริงของทีมชนิดถาวรด้วยวัยเพียง 16 ปี เป็นดาวยิงสูงสุดของลีกด้วย หลังผ่านการเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพได้ไม่เท่าไร เปเล่ นักเตะวัยรุ่นยามนั้น ก็ถูกเรียกตัวติดทีมชาติ บราซิล ทันทีในปี 1958 เปเล่ กลายเป็นนักฟุตบอลอายุน้อยที่สุดในโลกที่คว้าแชมป์โลก ด้วยวัยเพียง 17 ปีหลังเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่เอาชนะ สวีเดน เจ้าตัวยิง 2 ประตูในนัดชิง ให้ แซมบ้า ชนะสวีเดน 5-2 ที่กรุงสต๊อคโฮล์ม จากนั้นก็เล่นเกมฟุตบอลโลกกับ บราซิล อีก 3 สมัยในปี 1962,1966 และ 1970 ซึ่งพาบราซิลคว้าแชมป์โลกอีก 2 ครั้งคือปี 1962 และ 1970ในทัวร์นาเมนต์ปี 1962 และ 1966 เปเล่เจ็บปวดใจมากที่ไม่สามารถช่วยทีมได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเนื่องจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนหลังโดนนักเตะ เม็กซิโก เข้าบอลโหดใส่และทัวร์นาเมนต์ 1970 ที่เม็กซิโก คือทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของเปเล่อย่างไรก็ตาม นับว่าโชคดีที่ปี 1970 บราซิล นับว่ามีทีมที่ดีที่สุดในช่วงนั้นพอดีประกอบไปด้วยนักเตะดังๆระดับดาวอย่าง ริเวลิโน่,แจร์ซินโญ่ และ โตส์เตา ได้รับการยอมรับว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดของบราซิล และพาแซมบ้าชนะ อิตาลี สำเร็จ 4-1 ในปีนั้น โดยเปเล่ ยิง 1 จ่าย 1 ให้กับ แจร์ซินโญ่ เป็นการคว้าแชมป์โลกที่น่าประทับใจที่สุดของบราซิล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น